วันก่อนเราเห็นคลิปวีดีโอแม่ค้าตบโรตีไหลผ่านหน้าฟีดใน tiktok สองมือของแม่ค้าฟาดลงไปอย่างรุนแรงรอบ ๆ แผ่นแป้งสาม–สี่ชั้นขนาดเท่ามือคนราวกับเป็นสนามอารมณ์ จำแคปชั่นได้ประมาณว่า ‘ยิ่งตบยิ่งอร่อย’ ดู ๆ ไปก็สะใจแปลก ๆ
จนกระทั่งเมื่อวานไปเดินซื้อของที่ตลาดแล้วเจอร้าน ‘โรตีตบ’ แห่งนึงในตลาดแถวบ้าน แบบที่เน้นขายแต่โรตีที่ผ่านการตบแล้วเท่านั้น พร้อม ๆ กับท็อปปิ้งซอสต่าง ๆ แต่เอ๊ะ คนเราจะต้องมีพิธีรีตองในการกินแป้งโรตีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เชียวหรอ การทำแบบนี้ให้ผลลัพธ์อะไรที่ต่างไปจากเดิมนอกเหนือจากวิชวลที่ดูรุนแรงกันนะ 🤔
ความจริงแล้ววัฒนธรรมการกินโรตีในบ้านเรานั้นเริ่มมาจากการที่ชาวอินเดียพาเข้ามาในแถบมลายูแต่เป็นในลักษณะของโรตีแกงที่ชาวไทยอาจจะไม่ค่อยเก็ตเท่าไหร่ เลยต้องดัดแปลงออกมาให้เป็นรูปแบบของของหวาน แน่นอนว่าเป็นวัฒนธรรมที่แปลกพอ ๆ กับเวลาที่เราเห็นชาวต่างชาติเอาข้าวไปทำเป็นพุดดิ้งเลย 🍮
เกริ่นมาจนถึงตอนนี้แล้ว เราก็เลยไปลองรีเสิร์ชมาจากหลาย ๆ ร้านเรื่องการตบโรตี ส่วนมากคนขายจะบอกว่ามันคือกรรมวิธีที่ทำให้แป้งโรตีอร่อยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่สองมือนั้นตบเข้าไปที่ตัวแป้งโรตี ผิวแป้งในส่วนที่กรอบและนุ่มจะถูกแยกออกจากกัน เท็กซเจอร์จะฟูขึ้น น้ำมันจะถูกไล้ไปทั่วชิ้นทำให้แป้งมีความกรอบนอกนุ่มในและไม่แข็งเมื่อเย็นลง (ยกเว้นว่าถ้าสั่งโรตีแบบกรอบบางร้านก็จะไม่ตบให้เพราะมันไม่ช่วยอะไรมากนัก) ก่อนจะนำไปราดนมน้ำตาลตามออเดอร์จากลูกค้า จนกลายเป็นจุดขายของบางร้านไปเลย ✋✋✋
โรตีนับว่าเป็นวัฒนธรรมอาหารที่มีการปรับตัวไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เข้ากับลักษณะนิสัยการกินของคนไทย เราเลยจะได้เห็นการสร้างสรรค์โรตีรูปแบบใหม่ ๆ ให้เห็นผ่านตาอยู่เรื่อย ไม่ว่าจะเป็นโรตีบอมบ์ที่ม้วนมาการีนไว้ข้างใน โรตีกระเบื้องแผ่นใหญ่แป้งบางเฉียบ หรือแม้กระทั่งโรตีดิบที่เพิ่งจะซาไปเมื่อไม่นานมานี้ ในอนาคตจะต้องมีร้านที่นำเสนอเมนูโรตีแบบใหม่ ๆ ออกมาให้เห็นอีกแน่นอน 🤤
About the author
เมอี้ เลิฟ มี เลิฟ แพนด้าแดง